วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

โปรแกรมบัญชี กับ มุมมองผู้บริหาร ตอนที่2

การเลือกซื้อซอฟท์แวร์ไม่ได้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบัญชีฝ่ายเดียว จะเห็นว่า โปรแกรมระบบบัญชี เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน เช่น

ระบบใบเสนอราคา, ใบสั่งจอง, ใบสั่งขาย, เกี่ยวข้องกับฝ่ายขาย
ระบบใบขอซื้อ(PR), ใบสั่งซื้อ(PO) เกี่ยวข้องกับฝ่ายจัดซื้อ
ระบบลูกหนี้(AR) เกี่ยวข้องกับฝ่ายบัญชี, ฝ่ายสินเชื่อ
ระบบเจ้าหนี้(AP) เกี่ยวข้องกับฝ่ายบัญชี
ระบบสินค้าคงคลัง(IC) เกี่ยวข้องกับฝ่ายคลัง, ฝ่ายบัญชี
ระบบบัญชีแยกประเภท(GL) เกี่ยงข้องกับฝ่ายบัญชี, ฝ่ายการเงิน
ระบบเช็ค(CQ) เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเงิน
โปรแกรมบัญชี ของคุณต้องพร้อมเสมอเพื่อรองรับอนาคต

โปรแกรมที่คุณซื้อต้องสามารถรองรับความต้องการทั้งในวันนี้และอนาคต การทำธุรกิจทาง E-commerce จะต้องใช้ Database ที่มีคุณภาพ Database ที่ดีจะต้องมาจากซอฟท์แวร์ทีมีคุณภาพเท่านั้น

บริษัทที่จำหน่ายซอฟท์แวร์ Modify โปรแกรมให้เข้ากับงานบัญชี หรืองานอื่นๆของคุณหรือไม่

มีบริษัทเป็นจำนวนมาก ตอนที่เลือกซื้อซอฟท์แวร์มักจะไม่คำนึงถึงหัวข้อนี้ ต่อมาภายหลังมีความต้องการความสามารถของซอฟท์แวร์เพิ่มขึ้น แต่ซอฟท์แวร์เดิมไม่สามารถรองรับงานได้ จำเป็นต้องเลิกใช้ทำให้ระบบงานหยุดชะงัก ต้องเริ่มต้นงานใหม่อยู่ตลอดเวลา ขาดความต่อเนื่องในการทำงาน ในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ ขอแบ่งประเภทของซอฟท์แวร์ระบบบัญชี หรือโปรแกรมบัญชีไว้ดังนี้

โปรแกรมบัญชี ที่พัฒนาขึ้นมาใช้งานเอง

ข้อดี - ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ - มีความยืดหยุ่นสูง
ข้อเสีย - ลงทุนสูง - ใช้เวลาในการพัฒนานาน - โอกาสพัฒนาไม่สำเร็จมีสูง ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทีมงาน

โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป (Accounting Softwere Package)

ข้อดี - สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อทำการติดตั้งสำเร็จ - ราคาถูกกว่าพัฒนาซอฟท์แวร์ใช้เองมาก
ข้อเสีย - ไม่มีความยืดหยุ่น - ไม่รับ Modify ให้กับลูกค้า
โปรแกรมบัญชีที่เป็นกึ่ง Package

เป็นการแก้ปัญหาของซอฟท์แวร์ทั้งสองประเภทที่ได้กล่าวมาแล้ว เมื่อมีซอฟท์แวร์เป็นชุดมาตรฐาน แล้วสามรถนำมา Modify ให้เข้ากับงานของท่านได้โดยเสียค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก

มีการบริการหลังการขายอย่างไรบ้าง
นอกเหนือจากโปรแกรมบัญชี ที่มีคุณภาพแล้วสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง คือ การบริการหลังการขาย การขายโปรแกรมบัญชี ที่จริงแล้วเป็นการขายบริการมากกว่า ตัวโปรแกรมบัญชี เหมือนกับนามธรรม รูปธรรมคือตัวซอฟท์แวร์ ต้องสามารถใช้งานได้ ใช้ได้หรือไม่ได้อยู่ที่การบริการเป็นหลัก มีทีมงานไว้คอยบริการลูกค้า ไม่ใช่เมื่อ 10 ปีที่แล้วก็เป็นโปรแกรมบน Dos ขณะนี้ก็เป็นระบบ Dos แถมยังไม่มีการ Upgrade ความสามารถอะไรใหม่ๆ ให้กับลูกค้าเลย ส่วนความมั่นคงขององค์กรที่จำหน่ายโปรแกรมก็มีความสำคัญไม่น้อย ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าซอฟท์แวร์ที่ท่านเลือกใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ บริษัทฯ ที่จำหน่ายให้กับท่านจะอยู่บริการท่านต่อไปหรือไม่ มีบางบริษัทได้ตัดสินใจจ้างโปรแกรมเมอร์อิสระพัฒนาโปรแกรมให้ใช้ พอพัฒนาจบส่งมอบงานเสร็จ ไม่ทราบว่าคนพัฒนาไปอยู่ที่ไหน ตามตัวมาแก้ปัญหาก็ยาก ค่าจ้างก็สูงมากหรือไม่ก็อาจจะไม่รับทำงานให้เลย ทำให้บริษัทต้องเริ่มต้นใหม่อยู่ตลอด เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย เสียโอกาสทางธุรกิจเป็นจำนวนมหาศาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น